![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjm1QWfVbWzRHvWlHguNrEi680R0-39pt5sT7o4N22GP8S4DSBU52nhs41QbYnVC3uu6-T5uSWv_j5lvNwm27NQG2LDxL-ka6EyYmtFvXMJJ86LXW5xKAmV3_vVleE7bUDWHzSjJATroSnr/s320/km006.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfuH-mwlpoJ8L19OcDedUSenM0HrgcP7tPKFDj5xr01JdjUlU9tyIhxYO5wEL0Mt-h5IAVWgqy_yQeb0kpbjeUvRQVcYxXIWMvBgUjltFWMFxr87GZ91qLkUpbAqkyR6JtkkXKq0cgyMDo/s320/km003.jpg)
เจ้าของบ้านยกสำหรับมาเสริฟพร้อมกระติ๊บข้าวเหนียว แกก็ใจดีถามว่ากินได้ไหม จะเอาข้าวขาวไหม พวกเรารีบบอกไม่ต้องหรอกกินได้ อาหารหลักจานใหญ่เป็นเห็ดโคนผัดน้ำมันหอย ไข่เจียว และน้ำพริกเผ็ดจี๊ด ของหวานเป็นสับปะรดที่ซื้อมาจากตลาดตอนกลางวัน หัวละ 5 บาทเอง นั่งเล่นไพ่กันสักพัก เจ้าของบ้านมาบอกว่านอนได้แล้ว คนที่นี่นอนกันเร็วเนอะ จึงได้มีแต่ลูกเด็กเล็กแดงวิ่งกันให้ทั่วไปหมด 5550 เช้าตื่นขึ้นมากะว่าจะไปใส่บาตรเสียหน่อยแต่ฝนดันตกเลยอดเลย พอฝนซาจึงเดินไปท่าน้ำอีกด้านลงเรือลำละ 3 คน เห็นเด็กๆ ถือยออันน้อยๆ ช่วยกันยกหาปลาอยู่ริมตลิ่ง สองข้างทางเป็นป่าธรรมชาติจริงๆ นั่งไปตามน้ำจนไปสุดที่ปากถ้ำ..... โห น้ำเชียวจริงๆ ต้องลงเดินก่อน แล้วลงเรืออีกครั้ง ถ้ำนี้มีชื่อเหมือนชื่อหมู่บ้านเลย เห็นชาวบ้านบอกว่า เมื่อก่อนไม่รู้ว่ามันทะลุอีกฝั่งได้ ต้องเดินข้ามเขาไปสองสามวัน แต่มีอยู่วันหนึ่งเขาเป็นเป็ดป่าฝูงหนึ่งลอยน้ำอยู่ที่ปากถ้ำ และมาพบเจอมันอีกฝั่งเมื่อเดินข้ามเขามาแล้ว เลยลองชวนชาวบ้านล่องเรือลอดถ้ำดู จึงพบว่ามันทะลุๆได้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าข้างในถ้ำใต้เขาจะกว้างใหญ่และเย็นสบาย อากาศไหลเวียนดี เขาจอดแวะกลางทางให้เดินเรียบขึ้นฝั่งไปดูหินงอกหินย้อย มีเสาหินเป็นสิบๆ ต้น ใกล้เคียงกับเสาหินที่ลำคลองงูเลย ใช้เวลาลอดถ้ำประมาณ 1 ชั่วโมง เริ่มมองเห็นแสงสว่างของปากถ้ำอีกทาง เมื่อออกมาแล้วมาแวะพักกันไม่ไกลมากนัก ชาวบ้านบอกว่าถ้าไปต่อจะพบหมู่บ้านใหม่ที่เริ่มสร้าง ต้องมาทางเรือเท่านั้น หรือไม่ก็เดินป่าเข้ามา ขากลับย้อนกลับทางเดิม เกือบได้เสียวกันเล็กน้อยเพราะเรือดันเกยหินเกือบล่มแนะ.....
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgkMRyHEC8eeZQHUqP2CdGJLafVeZUSxMNkB_LCix9JAM6GOCJgEh2YKKwmdK0T5szeg9A9q52MtQSZvSH52WyFnqHHO_PrBtl0ig6UQLCSY-aRNMy5sjADz5nMwC3d3OYw4Zyd7dd6MZI1/s200/km005.jpg)
กลับมาถึงหมู่บ้านพวกเราก็หยิบเป้อำลาเจ้าของบ้าน ที่ชวนกินข้าวอีกมื้อ โอ้...คุ้มแสนคุ้มจ่ายไปแค่หัวละ 150 บาท เองทั้งที่พัก + อาหาร 3 มื้อ จนอยากจะอยู่ต่อ แต่พวกเราอยากออกมาเที่ยวน้ำตกมากกว่า ระหว่างทางเจอทางขาดเพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก ต้องเดินไปขึ้นรถอีกคันให้ออกไปส่งที่บ้านนาข้างนอก เลยหาที่พักแถวๆ ถนนใหญ่ไม่ไกลจากปากทางเข้าน้ำตกนัก เป็นน้ำตกสายยาวไหลตกลงมาสูงประมาณ 100 เมตรได้ เป็น 3 สาย กลางหุบเขาสวยงามมาก คุ้มกับค่าเหนื่อยที่เดินมาดู กลับออกมาหาร้านอาหารกินดันไปเจอ ท้าวทองคูณเพื่อนชาวลาวที่เคยไปขี่มอ,ไซด์ที่พูเขาควายด้วยกันเมื่อสองปีก่อน เลยคุยกันเสียนาน รถที่จะกลับท่าแขกมารับหน้าเรือนพักตอนแปดโมงเช้า ใช้เวลาน้อยกว่าเดิมเพราะขากลับเป็นทางลง เลยถึงประมาณเที่ยง ขอแวะซื้อ "ขนมปาด" ขนมขึ้นชื่อเสียหน่อย รูปร่างหน้าตาคล้ายๆ ห่อหมูยอแต่ไม่ใช่ เป็นขนมคล้ายขนมเทียน อร่อยดีหอมด้วย แถมถูกอีกต่างหาก.....บ๊าย บายคำม่วน ม่วนใจหลาย
No comments:
Post a Comment